วันนี้ ทนายที่ดิน มีสาระทางกฎหมายมาฝากกันอีกแล้ว ปัญหาว่าการแย่งสิทธิครอบครองในที่ #สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ระหว่างชาวบ้านด้วยกันแย่งกันเอง
ที่สาธารณะคือที่ดินประเภทไหน ที่สาธารณะคือที่ดินที่ชาวบ้านหรือประชาชนใช้ร่วมกัน สังเกตง่ายๆคือ ไม่ใช่ที่ประเภทที่มี โฉนดที่ดิน, หนังสือรับรองทำประโยชน์ นส.3ก, สปก, สค1, ภบท 5, อันนี้เอาแค่เข้าใจกันคร่าวๆ ไม่ลงลึกเดี๋ยวชาวบ้านจะงง
ดังนั้น เมื่อมีการ แย่งการครอบครอง, แย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน, ใครจะมีสิทธิดีกว่ากัน ทนายที่ดินจะชวนมาดูว่าศาลฎีกาว่าอย่างไร
ฎีกา 1176-1177/2554 ที่ดินพิพาทเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์อันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การเข้ายึดถือครอบครองเพื่อประโยชน์เฉพาะส่วนบุคคลใดย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ราษฎรผู้ครอบครองย่อมไม่อาจยกสิทธิใดๆ ขึ้นโต้แย้งรัฐได้ เพียงแต่ในระหว่างราษฎรด้วยกัน กฎหมายผ่อนคลายยอมให้ราษฎรที่ยึดถือครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ก่อนเกิดสิทธิที่จะยกขึ้นยันบุคคลอื่นที่เข้ามารบกวนหรือแย่งการครอบครองได้ แต่จะหวงกันผู้อื่นได้แต่ขณะที่ตนยังยึดถือครอบครองอยู่จริงเท่านั้น และหากถูกแย่งการครอบครองจะต้องดำเนินการเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองจากบุคคลอื่นภายในเวลาหนึ่งปีนับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 เพราะกฎหมายประสงค์จะให้มีการกระจายการใช้ประโยชน์ในสาธารณสมบัติของแผ่นดินแก่ราษฎรทั่วไป มิใช่ยินยอมให้บุคคลหวงกันไว้โดยไม่ได้ทำประโยชน์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง การที่จำเลยทั้งสองเข้าปลูกบ้านพักอาศัยในที่ดินพิพาทโดยโจทก์ยังยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทและยังไม่ได้สละสิทธิครอบครอง จึงเป็นการแย่งการครอบครอง โจทก์จึงฟ้องเพื่อเรียกคืนการครอบครองได้ภายในเวลา 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง
จะเห็นว่า
1.คดีนี้สาธารณะสมบัติของแผ่นดินคือทุ่งเลี้ยงสัตว์
2.คู่พิพาทคือ ประชาชนหรือชาวบ้าน (ไม่ได้ต่อสู้กับรัฐ)
3.ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ใครครอบครองทำประโยชน์ก่อน ผู้นั้นมีสิทธิดีกว่า
แนวทางแก้ไขสำหรับชาวบ้านคนอื่นๆจะทำอย่างไร.....เรื่องนี้มีทางออกแต่ทนายที่ดินต้องเก็บเป็นความลับ หากใครมีปัญหาในเรื่องทำนองนี้ ติดต่อหาทนายที่ดินโดยด่วน หากล่าช้าอาจไม่ทันการ