คดีบาส มีดคู่ กับ 6 โจ๋ วัดม่วง จะเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 294 หรือมาตรา 299

 การชุลมุนต่อสู้กันจะต้องไม่สามารถรู้หรือไม่สามารถแบ่งฝ่ายแบ่งพวกกันได้

 #เหตุผล... เนื่องจากหากแบ่งฝ่ายกันได้แล้ว ยังสามารถปรับบท ป.อาญา มาตรา 294 หรือมาตรา 299 ทุกคนจะเป็นตัวการร่วมในการชุลมุนต่อสู้ของอีกฝ่าย และแต่ละคนจะเป็นองค์ประกอบในการชุลมุนต่อสู้ของกันและกัน ซึ่งบุคคลจะไม่เป็นตัวการ/ผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในความผิดที่ตัวเองเป็นองค์ประกอบ (necessary participator)

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2642/2542  จำเลยที่ 2 ที่ 5 และที่ 8 มีเจตนาร่วมวิวาททำร้ายผู้ตายกับพวกมาแต่แรกอีกทั้งได้ลงมือทำร้ายผู้ตายกับพวกโดยร่วมกัน ชกต่อยและใช้ไม้ตี ถึงแม้ผู้ตายจะถึงแก่ความตายเพราะถูกแทง โดยไม่รู้ว่าจำเลยคนไหนเป็นคนแทง จำเลยที่ 2 ที่ 5 และที่ 8 ก็มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การที่จำเลยกับพวกฝ่ายหนึ่งและผู้ตายกับพวกอีกฝ่ายหนึ่งสมัครใจวิวาทต่อสู้ทำร้ายกัน แม้แต่ละฝ่ายมีหลายคนแต่เมื่อสามารถรู้และแบ่งฝ่ายแบ่งพวกกันได้ หาใช่เป็นความผิดฐานเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้กันเป็นเหตุให้มีบุคคลถึงแก่ความตายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  4804/2530  กรณีชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และมีบุคคลถึงตาย ตาม ป.อ. มาตรา 294 หมายถึงกรณีที่ไม่ทราบว่าผู้ใดหรือผู้ใดร่วมกับใครได้ทำร้ายผู้ตายถึงตาย มิใช่กรณีที่ฝ่ายหนึ่งกลุ้มรุมกันทำร้ายผู้ตายถึงตาย ซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  1189/2537(วินิจฉัยทำนองเดียวกัน)

มาตรา 294 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หมายเหตุ**มาตรา 299 ใช้หลักการเดียวกัน